หน้าแรก
- ดูแลเบื้องต้นเมื่อสงสัยว่าเป็น
-
การรักษา
- การป้องกันไม่ให้เป็น
-
เกร็ดประสบการณ์
แหล่งข้อมูลอื่นๆ
ที่มีเนื้อหาใกล้เคียง |
-
-
ข้อมูลไทยฮาวอื่นๆ
ที่มีหัวข้อใกล้เคียง |
- การใช้ปรอทวัดไข้
- วิธีปฏิบัติเมื่อเด็กเป็นไข้
-
การทำลายแหล่งเพาะพันธุ์
ยุงลาย
และลูกน้ำ
อุปกรณ์ประกอบ
เพื่อการนี้ |
|
ดูแลเบื้องต้นเมื่อสงสัยเป็น
ไข้เลือดออก |
ไข้เลือดออก
เป็นโรคติดเชื้อจากไวรัสชนิดหนึ่ง
โดยมียุงลายเป็นพาหะ
ซึ่งยุงลายจะกัดเด็กในตอนกลางวัน
ทำให้เด็กที่ได้รับเชื้อป่วยเป็นไข้เลือดออกได้
ดูแลเบื้องต้นเมื่อสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก
-
ถ้าเด็กมีไข้สูง
ควรเช็ดตัว
และให้รับประทานยาลดไข้
พาราเซตามอล ทุก 4 - 6
ชั่วโมง
(ห้ามใช้ยาแอสไพลิน)
เพราะจะทำให้เลือดออกรุนแรงขึ้น
-
ควรให้เด็กดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มมากๆ
ควรให้ดื่มครั้งละน้อยๆแต่ดื่มบ่อยๆ
เพื่อทดแทนการเบื่ออาหาร
ควรสังเกตุอาการอย่างใกล้ชิด
เพื่อป้องกันภาวะช็อค
-
กรณีผู้ป่วยที่มีภาวะช็อค
ส่วนใหญ่จะพูดคุยรู้เรื่อง
ซึ่งถ้าไม่ได้รักษา
อาจเสียชีวิตภายใน 12 - 24
ชั่วโมง
-
แต่ถ้าเด็กอาเจียนมาก
ควรรีบปรึกษาแพทย์
-
ถ้าดูแลเบื้องต้นดี
แล้วเด็กยังมีไข้เกิน 3
วัน
หรือมีอาการเลือดออก (มีจุดแดงเล็กๆที่ผิว
บริเวณแขน
ขา ลำตัว
หรือมีเลือดกำเดาไหล
อาเจียนเป็นเลือด)
ให้รีบส่งโรงพยาบาล
-
หรือถ้าอาการไข้ลดลง
แต่เด็กมีอาการซึม
ไม่รับประทานอาหารเลย
ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน
-
ถ้ามีอาการปวดท้อง
ปัสสาวะน้อยลง
กระสับกระส่าย ชีพจร
เต้นเบา เร็ว
มือเท้าเย็นพร้อมๆกับไข้ลดลง
ให้รีบส่งโรงพยาบาลทันที
ข้อมูลประกอบ
การรักษา
- เนื่องจากยังไม่มียาเฉพาะ
ที่สามารถต้านเชื้อไวรัสเดงกี
การรักษาตามอาการจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ควรป้องกันไม่ให้เด็กเป็นไข้เลือดออกได้อย่างไร
?
- ป้องกันไม่ให้เด็กถูกยุงกัด
โดยเฉพาะเวลากลางวัน
- ควรให้เด็กอยู่ในบริเวณสว่าง
ไม่อับลม
- กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
โดยเฉพาะบริเวณน้ำนิ่งที่สะอาด
กลับไปด้านบนสุด
กลับไปหน้าที่แล้ว
|
16 /12 /45
-
เอกสารเผยแพร่ (พศ.2544)
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
ถ.สุขุมวิท
กรุงเทพฯ
www.bumrungrad.com
-
เอกสารเผยแพร่ (พศ.2545)
กรมควบคุมโรคติดต่อ
กระทรวงสาธารณสุข
หมายเหตุ
ไข้เลือดออกเป็นอันตราย
ร้ายแรงถึงชีวิตถ้าดูแลรักษาไม่
ทันท่วงที
หากเด็กแข็งแรง
ไม่อ่อนเพลียมาก
จะสามารถฟื้นตัวและหายได้เอง
ภายใน 7 - 10 วัน
แต่ถ้าอาการหนัก
อาเจียนมาก เพลีย
ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยด่วน
|