-
โดยการใช้ดินที่มีส่วนผสม
- ดินร่วน 3 บุ้งกี่
- ปุ๋ยคอก 1 บุ้งกี่
- ขี้เถ้าแกลบ 1 บุ้งกี่
- ทรายหยาบ 1 บุ้งกี่
คลุกเคล้าให้เข้ากัน
-
แล้วนำมากรอกลงในถุงพลายติก
ขนาด 4 x 6
หรือ 4 x 4 ให้เต็ม
-
รดน้ำดินในถุงให้ชุ่ม
-
นำเมล็ดพันธุ์มาหยอดลงในถุง
ถุงละ 1 - 2 เมล็ด
-
รดน้ำให้ชุ่ม
ดูแลรักษารดน้ำทุกวัน
-
หลังเมล็ดเริ่มงอกแล้ว
ดูและรักษาต้นกล้าประมาณ
30 วัน
ก็สามารถย้ายปลูกในหลุมปลูกได้
การเตรียมแปลงปลูกและย้ายกล้า
-
มะละกอเป็นพืชที่มีระบบรากลึกและกว้าง
ทำหลุมปลูกระยะ
ห่างระหว่างแถว 2 - 2.5 ซม.
ตีหลุมลึก 0.5 เมตร
-
รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมี
15-15-15 อัตรา 1 ช้อนแกง / หลุม
-
ใส่ปุ๋ยคอก
ปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้ว
ทับบนปุ๋ยเคมี
-
นำต้นกล้ามะละกอลงปลูกในหลุม
-
กลบโคนเล็กน้อย
-
แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
-
หลังปลูกเสร็จให้ทำหลักเพื่อยึดลำต้น
ไม่ให้โยกขณะลมพัด
การดูแลรักษา
-
การให้ปุ๋ย
ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15
หลุมละ 1 ช้อนแกง ทุก 30 วัน
-
ให้ปุ๋ย
14-14-21
หลังติดดอกออกผลแล้ว
อัตรา 1 ช้อนแกง / ต้น / หลุม
หรือจะใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักอย่างสม่ำเสมอ
โดยใช้ปุ๋ย
วิทยาศาสตร์น้อยลงได้
-
การให้น้ำ เนื่องจากมะละกอเป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย
แต่อย่า
ให้ขาดน้ำ
เพราะจะทำให้ต้นแคระแกรน
ไม่ติดดอกออกผล
การให้น้ำอย่าให้มากเกินไป
ถ้าน้ำท่วมขังนาน 1 - 2 วัน
ต้นมะละกอจะเหลืองและตายในที่สุด
-
การพรวนดินกำจัดวัชพืช
ควรมีการพรวนดินกำจัดวัชพืชใน
ช่วงแรก
อย่าให้วัชพืชรบกวน
-
การทำไม้หลักเพื่อค้ำยันพยุงลำต้นไม่ให้ล้ม
โดยเฉพาะช่วงติดผล
การเก็บเกี่ยว
-
มะละกอถ้าเก็บผลดิบ
สามารถเก็บได้หลังปลูกประมาณ
5 - 6 เดือน
-
แต่ถ้าเก็บผลสุกหลังจากปลูกประมาณ
8 - 10 เดือน
ถึงสามารถเก็บเกี่ยวได้
-
ให้เลือกเก็บเกี่ยวผลที่กำลังเริ่มสุก
มีสีแต้มสีส้ม
ปนเขียวนิดๆ ผลยังไม่นิ่ม